วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วิธีทำขนมมงคล "เสน่ห์จันทร์"


    วิธีทำขนมมงคล
                  "เสน่ห์จันทร์"
ส่วนผสมแป้ง
แป้งสาลี ๑ ถ้วยตวง
ไข่แดง (ไข่ไก่) ๑ ถ้วยตวง
นํ้าตาลทราย ๓ ถ้วยตวง
หัวกะทิ ๒ ถ้วยตวง

ส่วนผสมหน้า
แป้งสาลี ๑/๒ ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
หัวกะทิ ๑ ถ้วยตวง
ผงโกโก้ ๑ ๑/๒ ช้อนชา

วิธีทำแป้ง
๑. คนแป้งกับนํ้าตาลทรายให้เข้ากันก่อน ในกระทะทอง ทำแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง
๒. ผสมกะทิลงในไข่แดงทีละน้อยก่อน คนให้เข้ากันดี แล้วจึงเติมกะทิส่วนที่เหลือ
๓. เทกะทิผสมไข่ลงในหลุมแป้ง ๑/๒ ส่วน ใช้ที่ตีไข่มือ คนจนแป้งเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จึงเติมกะทิที่เหลือ คนให้เข้ากันอีกครั้ง
๔. ยกกระทะขึ้นตั้งไฟค่อนข้างอ่อน กวนจนแป้งสุกข้น ถ้าสีของไข่อ่อนไปแต่งด้วย (สีผสมอาหาร) สีเหลืองไข่พองามขน พอขนมเริ่มล่อนจากกระทะ ยกลงจากเตา กวนต่อให้แห้งพอปั้นได้
๕. พอเย็นแล้ว อบด้วยดอกมะลิและกระดังงา ค้างคืนไว้
๖. ปั้นเป็นก้อนกลม กดให้แบนเล็กน้อยคล้ายผลเชอร์รี่ พักไว้สำหรับหยอดหน้า
วิธีทำหน้า
๑. ร่อนแป้งสาลีกับผงโกโก้รวมกัน ๒ ครั้ง พักไว้
๒. นำหัวกะทิใส่กระทะทอง ยกขึ้นตั้งไฟ กวนพอกะทิแตกมัน ใส่นํ้าตาลทราย กวนให้นํ้าตาลละลายจนข้น ใส่ส่วนผสมข้อ ๑ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน โดยใช้ไฟอ่อนๆ จนเหนียวสามารถปั้นได้โดยไม่ติดมือ ยกลง ตั้งพักไว้ให้เย็น
๓. ปั้นส่วนผสมในข้อ ๒ ให้เป็นวงแหวนขนาดเล็กกว่าตัวแป้ง หรือจะใช้พิมพ์ตัดก็ได้ นำขึ้นวางบนตัวแป้ง สำหรับแต่งหน้า และอบด้วยดอกมะลิค้างคืนไว้
สูตรนี้ สามารถทำขนมรับประทานได้ ๘ คน
เทคนิคการประกอบ
๑. เวลากวนส่วนผสมไม่ควรใช้ไฟแรงมากเกินไป เพราะจะทำให้ขนมไหม้
๒. ใช้ไข่เป็ด สีของขนมจะสวยกว่าไข่ไก่ แต่จะมีกลิ่นคาวมากกว่าไข่ไก่
ลักษณะที่ดีของขนม ขนมเสน่ห์จันทน์ ลักษณะที่ดีของขนม ควรมีสีเหลืองทอง สวยงาม ขนาดของเม็ดขนมมีขนาดขึ้นเท่าๆ กัน ขนมจะแห้งแต่ไม่แข็งและเหนียว รสหวาน หอม และมัน



2 ความคิดเห็น: